เทคนิคเฉพาะตัวที่ Digi Era เลือกใช้
Digi Era มีเทคนิคเฉพาะตัวที่สร้างสะสมประสบการณ์มามากกว่า 10 ปี ในการนำมาปรับใช้ให้เข้ากับแคมเปญของคุณ โดยเราจะพยายามนำเทคนิคนี้มาปรับใช้ให้เข้ากับทุกธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขาย ยอดเข้าชมเว็บไซต์ หรือแค่เพิ่มจำนวนการแอดไลน์
- วิเคราะห์ Keywords ให้เหมาะกับธุรกิจนั้นๆ
- วางโครงสร้างแบบ Single Theme Per Ad Group
- วางแผนการใช้งาน Negative Keywords
- สร้าง Ads Copy ให้น่าสนใจ
- ให้คำแนะนำในการปรับ Landing Page/Sale Page
- วัดผลด้วย Conversions เสมอ
เหตุผลที่ต้องเลือกทำ Google Ads กับ Digi Era
เลือกใช้ Keywords ที่ใช่
การเลือกซื้อโฆษณาบน Google Ads สามารถการันตีได้ว่าบริการของคุณจะขึ้นมาในหน้าแรกอย่างแน่นอน แต่ก็ควรจะต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายเช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าเลือกใช้บริการกับทาง Digi Era เราจะไม่ได้เพียงแค่การันตีอันดับในการค้นหา แต่จะมองลึกไปถึงการเลือกใช้ Keywords ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ทุกการคลิกเปลี่ยนไปเป็นยอดขายให้ได้มากที่สุด ด้วยเทคนิคเฉพาะของเราสามารถช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายได้แน่นอน
สร้าง Ads Text ให้น่าสนใจ
เมื่ออันดับโฆษณาอยู่ในอันดับที่น่าพอใจ แต่ก็ไม่อาจจะการันตียอดขายได้ ถ้าหากเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำโฆษณาหรือ Ads Text เพราะเปรียบเสมือนประตูด่านแรกที่จะเรียกลูกค้า ดังนั้นเมื่อเลือกใช้บริการของทาง Digi Era แล้วเรายังมีทีมงานที่พร้อมจะให้คำแนะนำในการคัดสรรการเขียน Ads Text เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งลูกค้า และการสร้างคะแนนคุณภาพของ Google Ads อีกด้วย รวมไปจนถึงการสร้างโอกาสในการเพิ่มยอดขายต่อในอนาคต
ต้องวัดผลได้ด้วย Conversions
ยอดคลิกไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นวัดประสิทธิภาพโฆษณา Google Ads ที่ดีสักเท่าไหร่หนัก เพราะคนอาจจะคลิกมาที่โฆษณาของเรามาก อาจจะด้วยโปรโมชัน คีย์เวิร์ด หรืออันดับ อย่างไรก็ตามในการคลิกเข้ามาเราก็ต้องมั่นใจด้วยว่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นยอดขายได้ ดังนั้นการเลือกทำโฆษณากับ Digi Era ก่อนที่จะรันแคมเปญในทุกแอคเค้าท์เราจะติดตั้ง Google Analytics 4 / Google Ads Conversions เพื่อใช้เป็นตัวช่วยว่านอกจากยอดคลิกแล้ว เราจะได้เห็นเป็นยอดของ Conversions (ยอดขาย, แอดไลน์) ที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น
บริการโฆษณา Google Ads แบบครบวงจร
เราไม่ได้เพียงแค่รับทำโฆษณา Google ทั่วๆ ไป แต่เรายังเน้นให้บริการแบบ One Stop Service ที่คุณจะได้เลือกลงโฆษณาได้อย่างหลากหลาย พร้อมได้รับคำแนะนำจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองจาก Google โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
Search Engine Marketing
Search Marketing เป็นบริการที่ Google Ads จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการผ่านการใช้ Keywords อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด Digi Era จะใช้กลยุทธ์ที่เน้นการวิเคราะห์ และคัดเลือกคำค้นหาที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการแสดงผลบนหน้าแรกของ Google ซึ่งจะช่วยทำให้แบรนด์ของคุณรู้จักมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย
Google Ads จะคิดค่าบริการจำนวนคลิกที่เกิดขึ้นจริง (Pay-Per-Click – PPC) ซึ่งหมายถึงคุณจะจ่ายเมื่อลูกค้าคลิกไปที่โฆษณาของคุณเท่านั้น ขณะเดียวกัน Digi Era จะช่วยในการจัดการ และบริหารแคมเปญให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้า และแนวโน้มของตลาด
Display Network
การโฆษณารูปแบบของดิสเพลย์ (Display Ads) ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนับล้านผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ของ Google Display Network (GDN) ซึ่งจะเลือกใช้โฆษณาที่จะใช้นั้นจะเป็น Responsive Display Ads ที่จะทำให้การแสดงโฆษณาไปแสดงได้อย่างเหมาะสมในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือ อุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Audience Targeting) เพื่อให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นว่า Affinity Audience, In-Market audiences หรือ Remarketing
นอกจาก Google Display Network ยังสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Google ได้ผ่าน Demand Generation Ads ที่รูปแบบของโฆษณาจะไปแสดงบนระบบ Network ของ Google ซึ่งถือได้ว่าพรีเมี่ยมกว่าไม่ว่าจะเป็น Google Discovery App, Gmail Ads และ Youtube Home เป็นต้น เช่นเดียวกัน Digi Era มุ่งเน้นที่จะพัฒนาแคมเปญให้ตอบโจทย์ของลูกค้ามากที่สุดตั้งแต่การสร้างการรับรู้ ไปจนถึงการสร้างยอดขายด้วย (Conversions) ด้วย Display Ads
Performance Max
Pmax จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีแนวโน้มการซื้อสูงสุด โดยจะอ้างอิงจากพฤติกรรมค้นหา และการใช้งานแพลตพอร์มของ Google โดยรูปแบบของโฆษณาจะแสดงบน Google Search, Google Display, Youtube, Google maps เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เห็นสินค้าของคุณมากยิ่งขึ้น จุดเด่นของ Performance Max จะอยู่ที่ Shopping Ads ดังนั้น Digi Era จึงแนะนำสำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชที่ต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง
App Installs & Engagement
Google จะช่วยให้แอปของคุณเป็นรู้จักมากขึ้น และได้รับการติดตั้งมากขึ้นผ่านแคมเปญ App Install Ads ที่จะเลือกใช้ AI (Machine Learning) ในการแสดงผลโฆษณาไปยังกลุ่มผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มในการติดตั้งแอปของคุณมากที่สุดบนแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google ไม่ว่าจะเป็น Google Search, Youtube, Display Network, Google Play และ Discovery โดยที่โฆษณาจะปรับให้เป็นอัตโนมัติเพื่อให้เหมาะสมในแต่ละอุปกรณ์ และเพิ่มโอกาสในการดาวน์โหลดแอป และลดค่าใช้จ่ายต่อการติดตั้งต่อครั้ง (CPI – Cost Per Install)
นอกจากการติดตั้งแล้ว Google ยังมี App Engagement Ads ที่จะสามารถทำ Re-marketing เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้งานแอปกลับมาใช้งานอีกครั้ง ด้วยการนำเสนอโฆษณาแบบเน้นฟีเจอร์เด่น, โปรโมชั่น และคอนเทนส์ที่น่าสนใจ ทำให้เกิดส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง และเพิ่ม Customer Lifetime Value (CLV) ของผู้ใช้ หากต้องการให้แอปของคุณเติบโต และสร้างฐานผู้ใช้ที่แข็งแกร่ง Digi Era พร้อมที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ทำไมต้องใช้บริการจาก Digi Era
โปร่งใส
Digi Era เลือกที่จะให้บริการภายใต้ Ads Account ของลูกค้าเอง โดยคุณจะต้องชำระค่าโฆษณาด้วยบัตรเครดิตของคุณเอง โดยเราจะคิดค่าบริการเป็นรูปแบบของการบริหารจัดการ (Management Fees)
ต้องวัดผลได้เสมอ
Digi Era จะบังคับให้ลูกค้าติดตั้ง Conversion Pixel ก่อนเริ่มแคมเปญเสมอ เพื่อใช้ในการวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างตรงไปตรงมา อาทิเช่น ยอดขาย หรือแอดไลน์ เป็นต้น
ประสบการณ์สูง
Digi Era บริหารด้วยทีมงานที่มีมากกว่า 10 ปี และบริหารแคมเปญมาแล้วในหลากหลายรูปแบบบริการไม่ว่าจะเป็น การเงินและการธนาคาร, อีคอมเมิร์ช หรือธุรกิจด้านสุขภาพ
รับฟังคำชื่นชมจากบริษัทดิจิทัลที่เราได้เข้าไปช่วย
Average Traffic Increase for Clients
Digi Era x แบรนด์ชั้นนำ
คำถามที่พบบ่อย
Google Ads หรือเรียกว่า Google AdWords เป็นแพลตฟอร์มที่ให้นักการตลาด หรือ เจ้าของธุรกิจได้เข้าไปใช้บริการในการเลือกซื้อโฆษณาผ่าน Google โดยที่ตัวโฆษณาจะสามารถกระจายไปได้หลากหลายช่องทาง หรือเรียกกันว่า ‘Google Network’ ประกอบไปด้วย Paid Search (SEM) – ระบบการทำโฆษณาด้วยการใช้ Keywords เป็นกลุ่มเป้าหมาย มองหาคนที่หาคีย์เวิร์ดแบบต่างๆ, Google Display Network (GDN) – ระบบที่จะให้เรากระจายแบนเนอร์ออกไปยังเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกูเกิ้ล, Shopping Ads – การทำโฆษณาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสั่งสินค้าได้ผ่านเว็บไซต์ ทั้งหมดล้วนเป็นรูปแบบตัวอย่างเบื้องต้น แต่ด้วยระบบของ Google ยังทำอะไรที่ได้มากกว่านั้น
Google Ads มีหลักในการคิดค่าโฆษณาเป็นรูปแบบของการประมูล (Bidding) แต่ไม่ได้หมายถึงยอดเงินประมูลสูงที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะ Google ยังมองถึงเรื่องของความสำคัญด้านคุณภาพอีกด้วย โดยที่ระบบจะคิดเงินเมื่อมีคนคลิกไปที่โฆษณาของคุณ เราก็มักจะเรียกกันว่า Cost Per Click – CPC / Pay Per Click – PPC รวมทั้งระบบการทำงานของ Google ให้สิทธิ์เราเลือกตั้งค่างบประมาณได้แบบรายวันเพียงเท่านั้น ไม่สามารถตั้งแบบรายเดือนได้ และอัตราค่าคลิกจะขึ้นอยู่กับการแข่งขันในตลาดนั้นๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะกำหนดค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่แน่นอนได้ จนกว่าเราจะรู้ว่าต้องการที่จะเลือกเล่นใน Keyword ไหน ซึ่งก็พอที่จะทำให้เราประมาณการได้ว่าควรใช้งบประมาณเท่าไหร่ ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม Cost Per Click – CPC เป็นเพียงแค่เทคนิคการประมูลที่อยู่บนระบบที่เรียกว่า ‘SEM – Search Engine Marketing’ เท่านั้น แต่ในทางกลับกันถ้าหากต้องการลงบนระบบอื่นๆ อาทิเช่น Google Display Network (GDN) ระบบจะเปลี่ยนการประมูลจาก CPC มาเป็น vCPM แทน ซึ่งจะต่างจากแบบแรกที่คิดเงินเมื่อมีคนคลิกโฆษณา มาเป็นคิดเงินเมื่อมีคนเห็นโฆษณาจริงๆ มากกว่า 1,000 ครั้ง ขึ้นไป
การจัดอันดับของโฆษณาบน Google Ads จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อแล้วอาจจะไม่สามารถนำขึ้นมาได้เลยตั้งแต่ในวันแรก แต่ว่าด้วยรูปแบบของแคมเปญที่ทางเราได้สร้างขึ้น จะสามารถการันตีได้ว่าอันดับนั้นจะอยู่ได้ในอันดับต้นๆ เสมอ
ทุกธุรกิจที่ต้องการเพิ่มยอดขาย หรือลูกค้า สามารถเลือกใช้โฆษณาบน Google Ads ได้เสมอ ขอเพียงแค่ธุรกิจนั้นถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ผิดกฏของ Google รวมไปจนถึงมีจำนวน Keywords ที่มากพอ เพราะถ้าธุรกิจของคุณมีจำนวนการค้นหาที่น้อย อาจจะต้องใช้แนวทางอื่นแทน เช่น Google Display หรือ Youtube เพื่อเพิ่มการรับรู้
การรับทำโฆษณาบน Google Ads จะประกอบไปด้วยการลงโฆษณาบน Google Network ที่มีด้วยกันสองระบบอันประกอบไปด้วย Search Network และ Display Network โดยในแต่ละเน็คเวิร์คจะให้การแสดงผลของโฆษณาบน Google ที่แตกต่างกันออกไป ประกอบไปด้วย
- Google Search Ads (Pay Per Click) – โฆษณาในรูปแบบของการค้นหา ที่จะให้คุณเลือกซื้อคีย์เวิร์ด (Keywords) เพื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เหมาะสำหรับเน้นในการสร้างยอดขายเป็นหลัก และมีประสิทธิภาพที่ดี
- GDN (Google Display Network) – โฆษณาที่จะแสดงแบนเนอร์โฆษณาไปยังเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ต่างๆ ในรูปแบบของ Display Ads เหมาะสำหรับใช้ในการสร้าง Awareness และ Consideration ได้ค่อนข้างดี เพราะต้นทุนต่อการคลิกค่อนข้างต่ำ (CPC) รวมถึงยังสามารถเลือกได้ว่าอยากให้แบนเนอร์ของคุณแสดงในเว็บไซต์ไหนได้อีกด้วยผ่าน Placement Targeting หรือเลือกลงแบบพรีเมี่ยมด้วย Demand Gen ที่จะทำให้คุณแสดงแบนเนอร์ได้บนระบบของ Google เอง
- App Campaign เข้าถึงผู้ใช้งานแอปพลิเคชันให้ทุกคนโหลดแอปของคุณ รวมถึงสร้างแคมเปญ Re-Engagement เพื่อสร้างยอดขายต่อได้ในอนาคตเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีแอปพลิเคชัน และต้องการเพิ่มยอดการใช้งาน (Monthly Active Users) และยอดขาย
- Shopping Ads โฆษณาสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณ เหมาะสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่ต้องการขยายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มยอดขาย และจำนวนคนเข้าไปซื้อสินค้าในเว็บไซต์